วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การใช้และข้อควรระวังในการใช้คอมพิวเตอร์เบื้องต้น ไฟลืไหน ใช้โปรแกรมอะไรเปิด


การใช้และข้อควรระวังในการใช้คอมพิวเตอร์เบื้องต้น ไฟล์ไหน ใช้โปรแกรมอะไรเปิด

ข้อควรระวังในการใช้คอมพิวเตอร์

๕.ข้อระวังในการใช้คอมพิวเตอร์?
๑. ควรอยู่ในที่เย็น แห้ง เช่นห้องแอร์ เพราะความร้อนจะทำให้อุปกรณ์เสื่อมเร็ว
๒. ไม่ควรเปิด-ปิดเครื่องบ่อยๆ ถ้าจำเป็นต้องใช้บ่อยๆให้ใช้โปรแกรมรักษาหน้าจอ(screen sever) และตั้งค่าการประหยัดพลังงานแทน โดยให้คลิกขวาที่ว่างๆบน Desk top และเลือก Screen saver (การรักษาหน้าจอ) แล้วก็ตั้งเวลาและลักษณะได้ตามต้องการว่าจะให้จอภาพเกิด screen sever ภายในกี่นาที ถ้าไม่ได้ใช้งานติดต่อกัน แต่ถ้าจะตั้งให้จอภาพปิด หรือ จะปิดการทำงานของ Hard disk ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆ ก็ให้คลิกต่อที่ Energy แล้วก็เลือกเวลาที่จะให้จอปิด, เวลาที่จะให้เครื่องเตรียมพร้อม, และเวลาที่จะให้ให้ปิด Hard disk เมื่อเครื่องไม่ได้ถูกใช้งานนานๆ แล้วก็คลิก Apply และ OK
๓. อย่าปิดสวิทซ์ที่ตัว case (ต้องสั่ง Shut Downที่โปรแกรม) เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ระบบได้และถ้าเปิดเครื่องใหม่มันก็จะทำการสแกนดิสอย่างหยาบๆเพื่อหาความเสียหายของระบบทันที
๔. ปุ่ม restart ที่ตัว case ใช้ในกรณีที่จำเป็นจริงๆ เช่นเครื่องแฮงค์(ค้าง)ปิดโปรแกรมไม่ได้และ shut down ไม่ได้
๕. การปิดและเปิดเครื่องเครื่องใหม่ควรห่างกันอย่างน้อย ๒๐ วินาที
๖. อย่าใช้คอมฯในขณะมีฟ้าร้อง ฟ้าผ่า หรือมีระบบไฟไม่ปกติ และเมื่อปิดเครื่องแล้วควรถอดปลั๊กไฟออก(สายโทรศัพท์ที่ต่อเข้าโมเด็มด้วย)
๗. ไม่จำเป็นอย่าเปิดฝาเครื่องแล้วไปถูกต้องอุปกรณ์ข้างใน เช่น ไมโครชิพ เพราะอาจมีไฟฟ้าสถิตจากตัวเราที่จะทำให้ไมโครชิปเสียหายได้ (ถ้าจำเป็นต้องจับก็ให้แตะที่ตัว CASE หรือโครงก่อนเพื่อปล่อยไฟฟ้าสถิตที่อาจมีอยู่ในตัวเราให้หมดไปก่อน)

 ไฟล์แบบไหน? ต้องใช้โปรแกรมอะไรเปิด?









เวลาที่เราไปดาวน์โหลดไฟล์มีเดียมาจากอินเทอร์เน็ต อาจต้องหัวเสียกับปัญหาเปิดไฟล์ไม่ได้ เพราะปัจจุบันนี้ไฟล์มีเดียถูกพัฒนาให้มีนามสกุลที่แตกต่างกัน กลายเป็นไฟล์คนละประเภทที่ไม่สามารถเปิดด้วยโปรแกรม Media Player พื้นฐานที่มากับ Windows ได้ ทีนี้ถ้าเราไม่มีความรู้ ไม่รู้จักนามสกุลแบบต่าง ๆ ของไฟล์ เราก็จะไม่รู้ว่าไฟล์ที่มีนามสกุลแบบนี้ ต้องเปิดด้วยโปรแกรมอะไร วันนี้เรามาทำความรู้จักกับไฟล์มีเดียนามสกุลต่าง ๆ กันดีกว่า คราวหน้าคราวหลังไปดาวน์โหลดไฟล์หรือรับไฟล์มาจากคนอื่นจะได้รู้ว่าจะจัดการเปิดมันได้อย่างไร

ไฟล์ AVI

เป็นไฟล์วิดีโอที่ดูผ่านคอมพิวเตอร์ โดยจะสามารถเปิดทั้งภาพและเสียงพร้อมกันได้ทันที ส่วนใหญ่จะนำมาเป็นต้นฉบับของไฟล์วิดีโอบนแผ่นดีวีดี โดยทั่วไปใช้โปรแกรม Windows Media Player เปิดก็ดูได้แล้ว แต่ที่มีปัญหาเล่นไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการ encode ของไฟล์นั้นว่าเป็น DivX codec หรือ XVID codec หรืออื่น ๆ ถ้าอยากรู้ว่าเครื่องมี codec อะไรอยู่ให้กด start/control panel/sound and audio devices/hardware/video codec/properties จากนั้นก็เข้าไปดาวน์โหลดไฟล์ codec จากเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์มาติดตั้งภายในเครื่องก็จะสามารถเปิดไฟล์ AVI ดูได้แล้ว

ไฟล์ DIVX

จะมีนามสกุลเป็น .avi หรือ .divx แต่ไฟล์ แต่มีข้อแตกต่างคือ .avi ไม่จำเป็นต้องเป็นไฟล์ DivX เสมอไป และไฟล์ DivX สามารถเล่นพร้อมกับเลือกแสดง Subtitle ได้หลายภาษา โดยปรับที่ Remote Control บนเครื่องเล่น DVD หรือ หากคุณใช้โปรแกรมเช่น Windows Media Player เล่นไฟล์ประเภทนี้ ท่านอาจจะต้องติดตั้งโปรแกรม แสดง subtitle เพิ่มเติม เช่น โปรแกรม Direct Vobsub เพื่อให้ subtitle ปรากฏไปพร้อม ๆ กับการรับชมภาพยนตร์ด้วย

ไฟล์ XVID

เป็น Open Source ที่ถูกพัฒนาโดยนักพัฒนาอิสระทั่วโลก มีรูปแบบการบีบอัดบนพื้นฐานของ mp4 เหมือนกับ DivX จึงสามารถเล่นบนโปรแกรมหรือเครื่องเล่น DVD ที่สามารถเล่นไฟล์ MP4 หรือ DivX ได้เช่นกัน โดยที่เครื่องเล่นของคุณนั้นต้องสนับสนุนไฟล์ XviD ด้วย แต่ถ้าคุณต้องการเปิดไฟล์ XviD ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ คุณต้องเข้าไปดาวน์โหลดไฟล์ XviD Decoder จากเว็บไซต์ทั่วไปมาติดตั้งเสียก่อน

ไฟล์ 3GP

เป็นไฟล์วิดีโอที่ต้องเปิดดูจากโทรศัพท์มือถือเท่านั้น  เพราะเป็นไฟล์ที่มีขนาดเล็กกว่าไฟล์วิดีโอทั่วไป ด้วยความที่ต้องถูกบีบอัดไฟล์ให้มีขนาดเล็กเพื่อใช้บนมือถือ คุณภาพของภาพจึงไม่คมชัดมากนัก แต่หากใครไปดาวน์โหลดไฟล์ 3gp จากอินเทอร์เน็ตแล้วจะมาเปิดดูในคอมพิวเตอร์ ขอบอกไว้ก่อนว่าโปรแกรมดูหนังทั่วไปไม่สามารถเปิดได้ ต้องใช้โปรแกรม Nokia Multimedia Player หรือไม่ก็ต้องไปดาวน์โหลดโปรแกรมจากอินเทอร์เน็ตมาเปิดดู

ไฟล์ FLV

เป็นไฟล์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายบนเว็บไซต์ที่ให้บริการวิดีโอผ่านเว็บไซต์ ซึ่ง FLV คือไฟล์วิดีโอที่ถูกสร้างจากโปรแกรม Macromedia Flash เป็นไฟล์ที่มีขนาดเล็ก แต่คุณภาพดีกว่าไฟล์ 3gp สามารถเปิดดูได้จากโปรแกรม Flash Player หรือ QuickTime จากแอปเปิลก็ได้ ทำให้หลายเว็บนิยมแปลงไฟล์ให้เป็น FLV เพื่อง่ายต่อการชมผ่านเว็บไซต์
พอรู้ลักษณะของไฟล์แต่ละประเภทแล้วว่า ไฟล์แบบไหน ควรใช้โปรแกรมอะไรเปิด คราวหน้าถ้าดาวน์โหลดไฟล์วิดีโอมาดู ก็จะไม่ต้องว้าวุ่นใจเพราะเปิดไฟล์ไม่ได้อีกต่อไป

ที่มา http://th.jobsdb.com/TH/TH/V6HTML/Home/it46.htm